เตรียมงานแต่งงานฉบับเร่งรัดภายใน 4 เดือน

เตรียมงานแต่งงานฉบับเร่งรัดภายใน 4 เดือน

โดยปกติการเตรียมงานแต่งงานใช้เวลาประมาณ 6 เดือนเพื่อให้ทุกอย่างไม่เร่งรัดมากจนเกินไป ยิ่งหากเป็นช่วงที่พีคสำหรับการจัดงานแต่งงานอาจจะต้องเผื่อเวลาออกไปอีก เพราะผู้ให้บริการต่างๆ เช่น การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย ชุดแต่งงาน แหวนแต่งงาน ก็จะมีงานจากคู่บ่าวสาวเจ้าอื่นต่อเข้าคิวเป็นทิวแถว สถานที่แต่งงานที่ได้รับความนิยมบางที่ก็ยังคงต้องจองข้ามปีอีกด้วย 

สำหรับท่านใดที่ได้ฤกษ์แต่งานแล้วมาเปิดดูปฏิทินเหลือเวลาไม่ถึง 5-6 เดือนก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะวันนี้โรงแรมกาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ทได้สรุปการแนวทางการเตรียมงานแต่งงานฉบับเร่งรัดภายใน 4 เดือนไว้ให้แล้ว 

เดือนที่ 1 : เดือนแห่งการวางแผนและการจอง

เดือนแรก เดือนนี้ก็เป็นเดือนว่าที่บ่าวสาว จะต้องคุยกันเพื่อสรุปรายละเอียดเบื้องต้น หากครอบครัวใดที่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายาย เป็นองค์ประกอบสำคัญก็ควรจะนำรายละเอียดไปเรียนปรึกษาเพื่อหาข้อสรุปก่อนที่จะดำเนินการต่างๆ โดยเรื่องแรกที่เป็น “หัวใจหลัก” ก่อนจะไปทำอย่างอื่นต่อ คือ

1.การตั้งงบประมาณ เรื่องงบประมาณนั้นเป็นเงินที่สองฝ่ายเห็นสมควรตรงกันว่า จะใช้จ่ายเงินสำหรับการจัดงานเท่าไร แบ่งเป็นงานหมั้นเท่าไร และงานแต่งงานเท่าไร การกำหนดสิ่งนี้ก็จะเป็นสิ่งที่จะนำไปสู่การกำหนดจำนวนแขกและเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานด้วย

2.จำนวนแขก การกำหนดจำนวนแขกจะสอดคล้องกับงบประมาณที่มี และเริ่มสโคปในส่วนสถานที่จัดงานแต่งงานได้ เช่น กำหนดว่า จะเชิญแขกงานหมั้น 50 ท่าน และงานฉลองมงคลสมรส 300 ท่าน แขกสำหรับฝ่ายหญิงกี่ท่าน และแขกสำหรับฝ่ายชายกี่ท่าน จากประสบการณ์หลายครอบครัวจะต้องนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับทางครอบครัว เนื่องจากเป็นเรื่องความสัมพันธ์ทางธุรกิจ งบประมาณที่วางไว้ไม่เพียงพอเมื่อจะต้องเพิ่มแขกกลุ่มนี้ ครอบครัวก็จะช่วยเหลือเติมงบประมาณให้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน 

3.เลือกสถานที่จัดงาน เมื่อได้จำนวนแขกแล้วก็พอจะเห็นว่า สถานที่จัดงานที่สามารถจัดได้มีสถานที่ใดบ้าง ต้องการจัดที่โรงแรม หรือสถานที่จัดแต่งงาน อยากได้เป็นในร่มหรือกลางแจ้ง  โดยส่วนนี้หากเลือกสถานที่จัดแต่งงานที่ได้รับความนิยมก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่โรงแรมจะเต็ม นัดเวลาเข้าชมสถานที่ประมาณ 3-4 ที่และรีบตัดสินใจจองสถานที่แต่งงาน เพราะหากเป็นวันฤกษ์ดี หรือวันเลขสวยเช่น 11.11 หรือ 9.9  หากตัดสินใจช้าก็จะมีคอนเฟิร์มสถานที่เสียก่อน และสอบถามเรื่องบริการต่างๆที่สถานที่จัดงานมีให้เพื่อได้วางแผนขั้นตอนต่อไป 

4.มองหา  คัดเลือก และจองคิว ผู้ให้บริการ

สำหรับผู้ที่ไม่ได้จ้างแพลนเนอร์ช่วยจัดแต่งงาน  ก็จะต้องใช้เวลากับส่วนนี้อย่างละเอียดว่ามีอะไรบ้างที่สำคัญ และบริการอะไรบ้างที่ทางโรงแรมหรือสถานที่จัดงานไม่ได้มีมาให้ โดยส่วนมากแบบพื้นฐานที่จะต้องหาเองได้แก่ วงดนตรีสดและนักร้อง ช่างภาพ ช่างวีดีโอ ผู้รันคิว พิธีกร ดีเจ (กรณีมีจัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้) ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม  ปัจจุบันมีกรุ๊ปต่างๆ ที่รวบรวมผู้ให้บริการเหล่านี้ไว้สามารถเข้าไปชมผลงาน พูดคุยและนัดคิวจองได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ขอแนะนำให้ดูรีวิวต่างๆด้วย เพราะก็มีบางงานที่เจอผู้ให้บริการทิ้งงานเช่นกัน 

 

5.ชุดงานหมั้น งานแต่งงาน และแหวน

ช่วงนี้เริ่มหาชุดงานหมั้น งานแต่งงานที่จะใช้ในงานพิธีได้เลย เพราะหากเป็นร้านตัดชุดที่มีชื่อเสียงก็อาจจะใช้เวลาในการตัดมากพอสมควร ประมาณ 3 – 4 เดือนขึ้นไป แต่หากเป็นการเช่าชุดที่มีอยู่แล้ว ส่วนนี้ก็สามารถไปดำเนินการประมาณในช่วง เดือนที่ 2 ของการเตรียมตัวได้ 

สำหรับแหวนหมั้น หากต้องการสั่งทำ ก็จะต้องใช้เวลาในการเลือกเพชร เลือกตัววง ขึ้นแบบ หากจัดการได้ในช่วงเดือนนี้ก็แนะนำให้รีบจัดการได้เลย เผื่อจะได้ไม่ต้องไปกังวลในช่วงหลัง

เดือนที่ 2 : เดือนแห่งการลงรายละเอียด

เมื่อผ่านเดือนแรกแห่งความทรหดไปแล้ว ทุกอย่างที่จะต้องใช้เวลาก็จะเริ่มเบาบางลง 

1.กำหนดธีมและการตกแต่งงาน

หากสถานที่จัดงานแต่งงาน มีบริการในส่วนธีมการตกแต่งงานให้ด้วยก็เป็นโชคดีที่เราแค่จัดหาแบบ หรือเลือกแบบที่ทางสถานที่จัดงานมีให้ และแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้กับทางเขาว่าอยากได้เป็นโทนสีอะไร หากคิดไม่ออก และไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องโทนสีมากนัก สีขาวเขียว สีชมพู สีแดง ก็จะเป็นโทนสีมาตรฐานเข้าได้กับทุกธีม  

แต่หากสถานที่จัดงานไม่มีให้ ก็ต้องกลับไปหาผู้ให้บริการด้านธีมงาน ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ที่ทำออกมาได้อย่างดี และมีชื่อเสียงในการจัดแต่งงานอย่างมาก เช่น Seethroughwedding  หรือ harmonizewedding โดยเลือกให้เหมาะกับงบประมาณที่วางไว้ หรือก็ติดต่อไปทางผู้ให้บริการและพูดคุยเรื่องงบประมาณเพื่อให้เขาทำแบบมาเสนอให้ก็ได้  

สำหรับโรงแรมกาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งสถานที่อยู่แล้ว และมีธีมงานให้ทางคู่บ่าวสาวได้เลือกจำนวนมาก ในเรื่องของโทนสีดอกไม้ก็สามารถนำโทนสีที่ชอบมาให้ทางโรงแรมดูเพื่อวางแผนการจัดธีมงานให้ได้เช่นกัน 

2.ชิมอาหาร 

การชิมอาหารควรนัดชิมอาหารในช่วงเดือนที่สองเพราะหากมีอะไรต้องการปรับเปลี่ยน ทางสถานที่จัดงาน จะได้นำไปปรับและอาจจะเชิญกลับมารับประทานใหม่อีกครั้งโดยรูปแบบของอาหารจะมีค็อกเทล บุฟเฟต์ โต๊ะจีน อาหารเซ็ต หรือบางโรงแรมอาจจะมีซิทดาวน์ดินเนอร์ด้วย ในส่วนของซุ้มอาหารที่จะเลือกก็สามารถสอบถามสถานที่จัดงานว่ามีอะไรบ้าง หรือหากต้องการนำเข้ามีค่านำเข้าเท่าไร

3.เลือกการ์ดเชิญ

การ์ดเชิญงานแต่งงาน จะใช้เวลาในการผลิตมากเช่นกันยิ่งหากจัดงานในช่วงปลายปี เดือนพฤศจิกายนหรือเดือนธันวาคม ร้านการ์ดแต่งงานจะขอให้เราพรูฟการ์ด ค่อนข้างเร็ว เพราะมีคิวผลิตต่อเนื่อง ร้านที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักได้แก่ Manita Wedding  

4.เริ่มสั่งของชำร่วย ของรับไหว้

ของชำร่วยอยากให้คำนึงถึงความสะดวกในการพกพาระหว่างที่คนมาร่วมงานจะต้องถือไปมาภายในงานด้วย ตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 ระบาด แอลกอฮอล์พกพาก็เป็นของชำร่วยที่ได้รับความนิยม แต่หากให้คิดถึงของชำร่วยที่เหมาะกับประเทศไทยก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก ยาดม และพัด เหมาะกับสภาพอากาศร้อนดีทีเดียว

ของรับไหว้ เป็นของที่ให้ผู้ใหญ่ หากคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไร ไอเท็มที่เป็นเซฟโซนก็คงจะเป็นผ้าพันคอ ผ้าขนหนู เนกไท ไปถึงที่ใส่นามบัตร และชุดแก้วเบญจรงค์ งดงามตามฉบับคนไทย 

5.เชิญประธานในงานด้วยวาจา

หากมีผู้ใหญ่ที่นับถือและอยากเชิญมาเป็นประธานในพิธี ช่วงเวลานี้ก็นัดคุณพ่อคุณแม่ ไปพบคนที่จะเชิญมาเป็นประธานในพิธีตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะหากท่านเป็นคนสำคัญ มีชื่อเสียง อาจจะมีคู่บ่าวสาวท่านอื่นเชิญไปในวันเดียวกันก็เป็นไปได้ หลังจากการ์ดแต่งงานเสร็จแล้วค่อยนำไปให้ท่านอีกครั้ง 

เดือนที่ 3 : เดือนแห่งการเช็คยืนยัน

1.ส่งการ์ดเชิญ

ระหว่างที่รอการ์ดแต่งงาน เตรียมหน้าซอง และทำลิสต์วิธีการส่งไว้ เพื่อได้การ์ดมาแล้วจะได้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว  โดยทั่วไปจะส่งการ์ดเชิญล่วงหน้าก่อนถึงงานประมาณ 1 เดือน แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีก้าวล้ำ การส่งแบบอิเลคทรอนิกส์ก็ถูกนำมาใช้เพื่อความสะดวก แต่ไม่เหมาะอย่างยิ่งในการส่งให้กับแขกผู้ใหญ่ 

2.ลองชุดแต่งงาน

ช่วงของเดือนสุดท้าย ทางร้านตัดชุดจะนัดหมายให้เราเข้าไปลองชุดแต่งงานเพื่อจะได้มีเวลาเพียงพอในการปรับเข้าปรับออกแต่ในบางครั้งก็มีโอกาสปรับชุดกันจนอาทิตย์สุดท้ายก่อนงานด้วย ความเครียดที่พยายามจะควบคุมน้ำหนักกับยิ่งทำให้น้ำหนักไม่ลดลง หรือในบางคนก็เครียดมากจนผอมเกินไป 

3.รับแหวนแต่งงาน

รับแหวนแต่งงาน หากไม่พอดีจะได้มีเวลาเพียงพอในการปรับไซส์

4.วางแผนเรื่องที่พักให้ผู้ใหญ่ ญาติหรือเพื่อน 

หากมีผู้ใหญ่ แขก หรือเพื่อนที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นก็สามารถเตรียมที่พักให้กับทางทุกท่านได้ หากโรงแรมมีที่พักอยู่แล้วก็ปรึกษากับฝ่ายขายเพื่อขอราคาพิเศษไว้ก่อน และรีบสรุปจำนวน สำหรับค่าใช้จ่ายก็มีได้สองแบบคือ ให้ทางแขกเป็นผู้จ่ายเองและคู่บ่าวสาวเป็นผู้จองที่พักให้ หรือ เราเป็นผู้จ่ายให้ด้วย

แต่หากโรงแรมไม่มีที่พักก็จะต้องหาโรงแรมที่ใกล้เคียงเดินทางสะดวก เพื่อให้ไม่ต้องลำบากในการเดินท่างไปมา 

5.วางแผนเรื่องการเดินทาง

หากผู้มาร่วมงานนอนคนละที่กับสถานที่จัดงาน ก็จะต้องวางแผนเรื่องรถไว้ด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแขกที่เดินทางมาแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว

หรือหากมีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด ควรวางแผนเรื่องการเดินทางจากสนามบินไว้ด้วย 

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะได้จองรถให้เพียงพอกับผู้มาร่วมงานไม่เกิดความติดขัดหรือฉุกละหุก ในช่วงใกล้งาน

6.กำหนดเพลย์ลิสต์งานแต่งงาน

การเตรียมเพลย์ลิสต์ในงานไว้ จะทำให้เราได้เพลงในแบบที่เราชอบ และแจ้งไปกับทางนักดนตรีและนักร้องที่ทำการจองคิวไว้เพื่อให้เขาได้เตรียมตัว หากไม่รู้จะเลือกเพลงอะไร โรงแรมกาลนาน ริเวอร์ไซด์ได้เลือกเพลย์ลิสต์ไว้ให้แล้ว 

เดือนที่ 4 : เดือนแห่งการเช็ครายละเอียดครั้งสุดท้าย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเข้าช่วงเดือนสุดท้าย โดยช่วงนี้จะเริ่มเป็นช่วงเวลาที่ว่าที่บ่าวสาวจะเริ่มตื่นเต้นเหมือนทุกอย่างดูไม่ทันการณ์ไปหมด อะไรที่วางแผนไว้คิดว่าวางแผนไว้ดีแล้ว จะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจนทำให้ปวดหัวนอนไม่หลับ เครียด จนบางคนป่วยเข้าโรงพยาบาล ขอให้ทุกคนทำใจให้สบาย สมัยนี้อะไรก็ง่ายไปหมด ถ้าลืมอะไรก็ตั้งสติแล้วรีบจัดการ ไม่มีอะไรไม่ทันแน่นอน 

1.คอนเฟิร์มรายละเอียดสุดท้ายกับสถานที่จัดงาน

เดือนนี้ทางสถานที่จัดงานจะนัดหมายเข้าไปชำระเงินมัดจำรอบสุดท้าย รวมถึงขอไฟล์พรีเซนเตชั่นต่างๆ ส่วนนี้แนะนำให้ใส่แฟลชไดร์ฟไป หากเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้วโรงแรมจะขอเป็นแผ่นซีดี 3 แผ่นเพื่อสแปร์ไว้ 

2.หาแม่งาน

แม่งาน คือคนสำคัญที่จะทำทุกอย่าง ตัดสินใจแทนเราได้ในวันงาน ส่วนมากจะเป็นเพื่อนสนิทชนิดกินนอนเล่นด้วยกันมาตั้งแต่แรก หรือพี่น้องที่ไว้ใจได้ หรือผู้ช่วยที่รู้จักเราเป็นอย่างดี คนที่เราจะฝากชีวิตในวันงานไว้กับเขา ทำหน้าที่ประสานงานต่างๆ กับทุกฝ่าย ต้องมีทักษะในการสื่อสารขั้นเทพ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ มนุษยสัมพันธ์ดี มีสติรอบคอบ  ดูเหมือนยากแต่เชื่อเถอะรอบตัวของเราจะต้องมีคนประเภทนี้แน่นอน เขาคือคนที่จะต้องรู้รายละเอียดงาน สคริป ชื่อแขกวีไอพี รู้ว่าจะออกอาหารกี่โมง รู้ว่าใครคือช่างภาพ 

3.วางผังที่นั่ง

การวางผังที่นั่ง จะทำให้การรันงานเป็นไปอย่างราบรื่น แม่งานก็จะต้องทราบถึงผังที่นั่งเหล่านี้ด้วย เพราะแม่งานก็จะอาจจะต้องหาผู้ช่วยในการรันแขกเข้างาน หรือช่วยดูแลผู้ใหญ่โต๊ะวีไอพี กรณีที่งานมีแขกผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ

4.เช็คลิสต์

นำเช็คลิสต์กลับมาตรวจดูว่ามีอะไรที่ยังลืมอีกหรือไม่ หรืออะไรยังไม่สมบูรณ์เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ทัน 

5.เตรียมสคริปงานแต่งงาน

สคริปงานแต่งงานถามว่าสำคัญหรือไม่ สำหรับคนที่ไม่ชอบความเซอร์ไพร์ส มักจะเตรียมสคริปแต่งงานเอง เพื่อไม่ให้ช๊อตไมค์แบบงงไปกับคำถาม หรือลืมขอบคุณผู้มาร่วมงาน แต่หากจ้างทีมรันคิวส่วนนี้ทางทีมบรีฟกับคู่บ่าวสาวก่อนอยูแล้ว

7 วันก่อนวันงาน

ช่วงจิตใจอ่อนแอ และเหนื่อยไปหมด บางครอบครัวจะเจอแรงกดดันในช่วงเดือนสุดท้ายมาถึง 15 วันสุดท้ายอย่างหนักหน่วง ส่วนใครที่ไม่เจอถือว่าโชคดีอย่างมาก แรงกดดันโดยส่วนมากก็เพราะทุกคนอยากให้งานออกมาดี แต่ด้วยความที่ใช้พลังในการเตรียมงานไปอย่างมากมาย ยิ่งทำให้ความรู้สึกเหนื่อยมากขึ้น จากผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน อยากให้จะกำลังใจและทุกอย่างจะผ่านไปเอง ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้  พยายามพักผ่อนให้มาก นอนหลับให้เพียงพอ ปล่อยวางและเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่มีความสุขกันดีกว่า 

สำหรับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะพอผ่านช่วงแต่งงานไปแล้วก็จะนำไปเก็บไว้จนลืม แต่หากใครที่สนใจจะถ่ายพรีเวดดิ้งทางโรงแรมกาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท มีแพ็กเกจพรีเวดดิ้ง พร้อมด้วยสถานที่สวยงามเน้นภูมิทัศน์สีเขียวจากต้นไม้ตามธรรมชาติและวิวแม่น้ำพานาโรมา ประกอบกับสถาปัตยกรรมสไตล์ไทยโคโลเนียล หากสนใจเข้าเยี่ยมชมสถานที่สามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่าง