22 สิ่งที่ควรรู้ก่อนแต่งงาน

22 สิ่งที่ควรรู้ก่อนแต่งงาน

การแต่งงานเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของชีวิตคู่ แน่นอนทุกคู่ย่อมอยากจะเนรมิตงานนี้ให้เป็นงานที่ดีที่สุดเพื่อเป็นความทรงจำให้แก่กัน แต่การเตรียมงานก็มีรายละเอียดที่เยอะพอสมควร ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี วันนี้ทางโรงแรมกาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ทจึงได้รวบรวม 22 สิ่งที่ควรรู้ก่อนวางแผนจัดงานแต่งงานมาให้ หากติดกระดุมเม็ดแรกถูก รับรองว่า จะติดกระดุมเม็ดต่อไปถูกเช่นกัน

1.ลิสต์รายละเอียดองค์ประกอบของการจัดงาน

ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะเริ่มเห็นว่า เราจะต้องใช้งบประมาณเท่าไรและใช้เวลาเท่าไรในการเตรียมงาน ในมุมมองของผู้ที่เคยจัดงานมาก่อน การทราบว่าทั้งสองฝ่ายมองเห็นว่างานหมั้นและงานแต่งงานออกมาเป็นอย่างไร เสมือนโครงร่างแรกจะเป็นจุดเริ่มต้นในการลงรายละเอียดขั้นต่อไป

2.หาฤกษ์หรือวันสำหรับแต่งงาน

เมื่อหาดูดวงเนื้อคู่จนได้เนื้อคู่มาแล้ว สิ่งต่อไปจะต้องเริ่มหาฤกษ์แต่งงาน โดยรูปแบบการหาฤกษ์แต่งงานจะมีอยู่ 2 แบบง่ายๆ คือ ฤกษ์สะดวก และฤกษ์ที่นำดวงชะตาของว่าที่คู่บ่าวสาวไปให้อาจารย์ หมอดูหรือพระที่นับถือช่วยหาฤกษ์ที่เหมาะสมกับทั้งสองคนให้ หรือบางครอบครัวที่เคร่งมากจริงๆ จะต้องดูไปถึงครอบครัวด้วยว่ามีคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย  ดวงชงในปีนั้นกับเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวหรือไม่ โดยการไปขอฤกษ์อาจจะต้องแจ้งผู้ดูฤกษ์ให้พอมีเวลาประมาณ 6 เดือนในการเตรียมงานได้ทันเวลา เพราะจากประสบการณ์หลายคู่จะได้ฤกษ์แบบด่วนที่ใกล้ที่สุดประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งจะมีผลต่อการเตรียมงานเช่นกัน

3.งบประมาณงานแต่งงาน

ในส่วนนี้ว่าที่บ่าวสาว วางแผนร่วมกันโดยการกำหนดส่วนนี้จะเป็นต้นเรื่องของการเตรียมการในขั้นต่อไป งบประมาณงานแต่งงานอาจจะหมายถึง วันที่จัดงานหมั้น จัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสเท่านั้น หรือรวมไปถึง ชุดแต่งงาน ของรับไหว้ ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ นักดนตรี  การแบ่งงบประมาณให้ละเอียดตั้งแต่แรก จะทำให้งบประมาณไม่บานปลาย ซึ่งความสวยงามของแต่ละงานต้องยอมว่าเรื่องงบประมาณนี้ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน

4.ธีมงานแต่งงาน

ธีมงานแต่งงานเป็นเรื่องของความชอบของคนสองคน โดยจะมีทั้งรูปแบบที่อยู่ในกระแสสสังคม หรือเป็นสไตล์คลาสสิกที่เรียบหรูคู่กาลเวลาตั้งแต่อดีตมาจนถึงทุกวันนี้ ธีมงานที่เห็นโดยส่วนใหญ่ก็จะเลือกจะโทนสี เช่น สีขาวเขียว สีชมพู สีแดง หรือ คัลเลอร์ฟูล หากลงรายละเอียดไปอีกก็จะมีธีมวินเทจ ธีมรัสติกที่เน้นความเป็นไม้ดิบๆ ออกแนวรักษ์โลก เหมาะกับการจัดในสวน หรือจะเป็นธีมแฟรี่เทลล์ (Fairy Tale) ตามเทพนิยาย เน้นดอกไม้ฟูหรูหรา  กลิ่นหอมไปทั้งงาน  รวมไปถึงเทรนด์ฮิตที่เริ่มขึ้นในช่วงปี 2020 เป็นต้นมาอย่าง มินิมอล เรียบ เก๋ ดูดี เบาได้เบา เบาที่สุด แบบแบลคดรอฟขาว 1อันพร้อมโลโก้ตัวเล็กๆ และดอกไม้แซมตามมุม

5.จำนวนแขก

เรื่องของจำนวนแขก เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดตั้งแต่เบื้องต้น ก่อนจะหาสถานที่จัดแต่งงานที่มีพื้นที่พอเหมาะกับจำนวนแขกที่กำหนดไว้ ส่วนนี้มักจะมีความเกี่ยวข้องไปถึงผู้ใหญ่ได้แก่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ และญาติผู้ใหญ่ว่าจะเชิญแขกของแต่ละท่านมาร่วมงานประมาณกี่ท่าน แต่หากคู่บ่าวสาวท่านใดที่จัดงานกันเองเฉพาะเพื่อนฝูงก็จะปวดหัวในเรื่องนี้ลงพอสมควร เพราะก็มีหลายกรณีที่จะจัดงานสำหรับแขก 300 แต่ไปจบที่ 500 คน แต่สถานที่ที่มองไว้ก็ไม่เอื้ออำนวย บางคู่จะถูกตัดตัวเลือกของโรงแรมที่จะเลือกได้อยู่ไม่กี่โรงแรม เช่น แขก 1,000 คน อาจจะต้องเลือกโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ก็เป็นไปได้

6.เลือกสถานที่และจองสถานที่

ถ้าคุณได้ฤกษ์แต่งงานในช่วงปลายปีอย่างเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม ควรมีเวลาอย่างน้อย 6 เดือนในการจองสถานที่เพราะช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่มีคู่บ่าวสาวแต่งงานกันมากที่สุด ทางโรงแรมกาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ทเองก็เคยมีงานแต่งงานทุกวันเสาร์ วันอาทิตย์ ชนกันหลายงานในช่วงนั้น บางครั้งลูกค้าก็หาฤกษ์สะดวกมาจัดงานในช่วงวันธรรมดา โดยเฉพาะการจัดงานในสวนบัดดี้การ์เด้น ขนาดใหญ่ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สวนสราญรมย์) พร้อมกับอากาศเย็นๆช่วงปลายปี ถือได้ว่าเป็นพื้นที่จัดงานที่ได้รับความนิยมสูงสุด นอกจากนี้โรงแรมฯ ก็มีพื้นที่จัดงานให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ทั้งสถานที่จัดงานริมแม่น้ำเจ้าพระยา สถานที่จัดงานบนสระว่ายน้ำ สถานที่จัดงานในห้องบอลรูม และสถานที่จัดงานในห้องจัดเลี้ยง สามารถรองรับลูกค้าได้ตั้งแต่ 50-400 ท่าน ด้วยโรงแรมเป็นสไตล์รีสอร์ทเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ของต้นไม้นานาพันธุ์ ประกอบกับสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่เสมือนย้อนไปในกรุงรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ ได้สถานที่แต่งงานแล้วยังได้สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งสวยงามอีกด้วย

7.พิธีการต่างๆ

เมื่อได้สถานที่จัดงานที่ชอบแล้ว สิ่งที่จะมาคู่กันคือ พิธีการต่างๆ บางครอบครัว อยากจะให้มีทั้งพิธีหมั้นไทยและพิธีหมั้นจีนแบบเต็มรูปแบบ และฉลองมงคลสมรสในวันเดียวกัน คู่บ่าวสาวก็อาจจะเหนื่อยพอสมควรเพราะเวลาค่อนข้างแน่น แถมทุกอย่างก็จะมีฤกษ์กำหนดเกือบทั้งหมด ดังนั้นการพูดคุยเรื่องนี้เนิ่นๆก็จะเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกอย่างวางแผนได้ง่ายขึ้นไม่งอกหรือเพิ่มระหว่างที่ได้เตรียมการไปครึ่งทางแล้ว จากประสบการณ์ บางครอบครัวอาจจะแยกพิธีทางพุทธศาสนาไปอีกวัน เพื่อไม่เวลากระชั้นชิดเกินไป หรืองานหมั้น 1 วันและงานฉลองมงคลสมรส 1 วัน

หากครอบครัวใดที่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องนี้ก็จะทำให้การจัดงานสั้นลงได้ เช่น งานหมั้นเช้าเลี้ยงฉลองตอนเที่ยง งานรูปแบบนี้คู่บ่าวสาวและแขกมาร่วมงานก็จะตื่นตอนเช้ามากหน่อย แต่ในปี 2024 เทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยม คือ งานหมั้นบ่ายฉลองตอนเย็น  ซึ่งแอดมินก็พยายามคิดว่ารูปแบบงานประเภทนี้จุดเด่นคืออะไร แน่นอนว่า เจ้าบ่าว เจ้าสาวไม่ต้องตื่นแต่เช้ามาตั้งแต่ 03.00-04.00 มาแต่งหน้าทำผม แขกผู้มาร่วมงานก็ไม่ต้องลำบาก แถมงานเลี้ยงตอนเย็นอาจจะต้องอาฟเตอร์ปาร์ตี้ได้ ถือว่าเป็นโมเดลงานที่เอาใจทั้งผู้ใหญ่และเพื่อนๆได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งงานทั้งงานหมั้นเช้าแต่งเที่ยง และงานหมั้นเที่ยงแต่งเย็น ค่าใช้จ่ายก็จะไม่แพงเทียบเท่ากับงานหมั้นเช้าแต่งเย็น หรืองานที่หมั้นกับแต่งงานแยกวันกันด้วย

สำหรับโรงแรมกาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท จะมีการเตรียมการเรื่อง พิธีสงฆ์ พานขันหมาก เครื่องเจิมและสายสิญจน์ อาหารสำหรับแขกมาร่วมงาน ให้บริการอยู่แล้วดังนั้นส่วนนี้ทางคู่บ่าวสาวมาแต่ตัวพักผ่อนพร้อมมาเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็พอแล้ว

8.รูปแบบงานเลี้ยง

รูปแบบของงานเลี้ยงจะมีเรื่องของลักษณะของแขกและจำนวนแขกเป็นตัวแปร หากงานใดผู้ใหญ่เยอะ รูปแบบของงานคงจะหนีไม่พ้นโต๊ะจีนที่อำนวยความสะดวกเสิร์ฟถึงโต๊ะ ส่วนงานที่เน้นความเก๋ๆ เพื่อนฝูง ก็สามารถเลือกได้ทั้งบุฟเฟต์ ค็อกเทล สำหรับงานประเภทค็อกเทลอาหารที่เสิร์ฟจะเป็นแบบ Fingerfood สามารถหยิบรับประทานได้ง่ายดาย

 บางโรงแรมอาจจะเชี่ยวชาญในการจัดงานซิทดาวน์ดินเนอร์ งานก็จะสวยหรูหราไปอีกแบบแต่ราคาก็ค่อนข้างสูงมากตามไปด้วยและเพื่อให้การเสิร์ฟเป็นไปอย่างสมบูรณ์ได้แขกที่มาร่วมงานได้รับอาหารแต่ละจานระยะเวลาใกล้เคียงกัน จะเหมาะกับงานที่แขกมาร่วมงานไม่ได้เยอะมาก

9.เชิญผู้ใหญ่มาเป็นประธานในพิธี

ก่อนจะไปสั่งทำการ์ดการตกลงกันว่าจะเชิญผู้ใหญ่ท่านใดมาเป็นประธานในพิธีกรณีเป็นแขกผู้ใหญ่ที่อยากระบุลงไปในการ์ด ควรจะไปพบผู้ใหญ่ท่านนั้นและขอเชิญมาเป็นประธานในพิธีเพื่อคอนเฟิร์มก่อน

10.เตรียมลิสต์รายชื่อแขก สั่งทำการ์ด และแจกการ์ด

การทำการ์ด จะประเมินได้จากจำนวนแขกที่จะมาร่วมงานเบื้องต้น และเลือกร้านที่จะทำการ์ด โดยร้านที่ครบเครื่องเรื่องการ์ดที่พอแนะนำได้คือ ร้าน Manita และร้าน Viriya สามารถเลือกกระดาษ รูปแบบได้ตามงบประมาณที่วางไว้ จะพิมพ์กี่สี กระดาษหนาแค่ไหนก็ลองไปคุยกับทางร้านได้เช่นกัน  ระยะเวลาในการพิมพ์การ์ด 3-4 เดือนเพื่อไม่ให้เร่งรีบจนเกินไป เพราะบางช่วงอย่างปลายปี มีงานแต่งงานค่อนข้างเยอะจะทำให้คิวของการผลิตการ์ดยาวพอสมควร  และการแจกการ์ดก็ควรแจกประมาณ 1 เดือนก่อนงาน

11.เตรียมชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว

การเตรียมชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาวและแหวนแต่งงาน โดยส่วนมาก เจ้าสาวจะมีแบบในใจ โดยชุดเจ้าสาวมีทั้งแบบสำเร็จ  , เช่า-ตัด (หมายถึงการสั่งตัดตามแบบตามไซส์ตัวและคืนเมื่อใช้งานเสร็จ) ,แบบตัดและซื้อขาด คือการตัดตามแบบและซื้อขาดไม่ต้องนำมาคืนที่ร้านเมื่อใช้เสร็จ ชุดงานแต่งงานมีหลายราคาขึ้นอยู่กับงบประมาณที่วางไว้ สำหรับชุดของเจ้าบ่าว ก็จะเน้นไปทางเลือกทรงและเลือกสีที่ชอบมากกว่า ระยะเวลาในการตัดชุดอยู่ที่ประมาณ 2-4 เดือน เจ้าสาวบางท่านก็จะมีแก้ชุดจนวันสุดท้ายหน้างานเนื่องจาก ความเครียดยิ่งพยายามลดน้ำหนักเท่าไรก็จะยิ่งทำให้ทุกอย่างส่วนทาง ดังนั้นการแก้ชุดเจ้าสาวเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น

ที่มา : www. millanova.com

ที่มา : www.milanweddingstudio.com

ที่มา : www.annasposagroup.com

12.แหวนแต่งงาน

แหวนแต่งงาน มีทั้งแบบสำเร็จและหาตัวเพขรน้ำงามเพื่อไปให้ร้านที่เชื่อถือได้ขึ้นตัวเรือนให้ตามความชอบ จะมีหลายแบบให้เลือกได้แก่ แหวนเพชรเม็ดเดี่ยว แหวนเพชรแบบก้าน แหวนเพชรแบบล้อม หรือแหวนเพชรแบบสามเม็ดเรียงกัน  ราราคาของแหวนขึ้นอยู่กับ รูปทรงของเพชร ส่วนมากที่นิยมที่สุดจะเป็นทรงกลม ที่เมื่อเจียระไนออกมาแล้วจะเห็นแสงวิบวับได้ดีที่สุด คุณภาพของเพชร ตามหลัก 4Cs คือ กะรัตของเพชร (Carat)  คุณภาพการเจียระไน (Cut) ,สีของเพชร (Color)  และความสะอาดของเพชร (Clear) สำหรับตัวเรือนก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งทองคำ 18K ไม่ว่าจะเป็นสีโรสโกลด์ หรือ สีทองคำขาว นอกจากนี้ยังมีแพลทตินัมที่ถือว่าเป็นแร่ที่หายากที่สุด มีสีขาวตามธรรมชาติ

ที่มา : www.weddingforward.com

ที่มา : www.jeandousset.com

ที่มา : www.ohsoperfectproposal.com

ที่มา : www.constancezahn.com

13.เตรียมพรีเวดดิ้ง และพรีเซนเตชั่น

พรีเวดดิ้งในช่วง 15-25  ปีก่อนหน้านี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ถ้าเราไปบ้านใครก็จะเห็นว่ามีรูปพรีเวดดิ้งในสตูดิโอติดไว้ที่ฝาผนังห้องรับแขก หรือบางครอบครัวก็จะติดไว้ที่ห้องนอน แต่ในช่วงหลังรูปแบบการถ่ายพรีเวดดิ้งถูกเปลี่ยนจากการตั้งใจถ่ายมาเป็นภาพตามธรรมชาติ ตามพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นสถานที่จริง เป็นภาพออกแนว ไลฟ์สไตล์ ไม่ได้ใส่ชุดแต่งงานแบบทางการมากนัก บางคู่ได้ตัดเรื่องการถ่ายพรีเวดดิ้งออกไป แต่เป็นการนำภาพที่ไปเที่ยวด้วยกันมาใช้ภาพในงานแทนด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพและทุกวันนี้หลายคู่ก็มีกล้องถ่ายภาพเป็นของตัวเองดังนั้นการไปถ่ายภาพที่สตูดิโอจริงจังมีแนวโน้มลดลง

สำหรับพรีเซนเตชั่น มีหลายโปรแกรมที่สามารถนำวีดีโอที่ใช้มาตัดต่อเองได้ แต่บางคู่ก็ยังเลือกจ้างถ่ายทำพรีเซนเตชั่นเพื่อเป็นการเก็บความทรงจำสำคัญมาฉายในงานแต่งงานอยู่เหมือนกัน

14.หาช่างภาพ ช่างวีดีโอ

การหาช่างภาพและช่างวีดีโอไม่ได้อยากอย่างที่คิด ตอนนี้คนทั่วไปก็สามารถซื้อกล้องและอุปกรณ์ประกอบกับมีฝีมือและมีพรสวรรค์ก็รับจ้างถ่ายภาได้แล้ว โดยสามารถหาช่างภาพแบบที่เราชอบได้ตามกรุ๊ปช่างภาพแต่งงานต่างๆ ขอดูพอร์ทงาน โดยทีมช่างภาพ ควรมีอย่างน้อย 2-3 ทีม ทีมแรก มีไว้สำหรับถ่ายภาพหน้างาน ทีมที่สองและทีมที่สามเก็บบรรยากาศ Snap Shot ต่างๆ  โดยจำนวนทีมและจำนวนคนขึ้นอยู่กับจำนวนแขกและพื้นที่ของงาน ราคาก็มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาท เช่นเดียวกับช่างวีดีโอ เมื่อคัดเลือกจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็มัดจำคิวและเมื่อก่อนถึงวันงาน 7 วันและ 3 วันอย่าลืมคอนเฟิร์มกันอีกครั้งเรื่องเวลา สถานที่นะคะ

15.หานักดนตรี

ดนตรีที่จะใช้งานโดยเบื้องต้นโรงแรมจะมีดนตรีคลอให้ภายในงาน หรือในช่วงพิธีการต่างๆ สามารถนัดแนะกับทางทีมซาวด์ของโรงแรมได้ว่าจะให้เปิดเพลงอะไร แต่หากต้องการวงดนตรีและนักดนตรีเพื่อเล่นดนตรีสดภายในงาน ก็จะมีรูปแบบ วงอคูสติก วงดนตรีแจ๊ส วงดนตรีคลาสสิก หรือวงดนตรีฟูลแบรนด์  การตัดสินใจเรื่องนักดนตรีและวงดนตรีอยู่กับรูปแบบของงานและบรรยากาศของงานเป็นหลัก หากมีธีมงานก็ขอให้แจ้งกับนักดนตรีว่าสามารถแต่งชุดเจ้าธีมได้หรือไม่ โดยปกตินักร้องและนักดนตรีที่รับงานแต่งงานจะเข้าใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว ระยะเวลาในการเล่นขึ้นอยู่กับการตกลงแต่ปกติ งานเย็น จะเริ่มเล่น 18.00-21.30 นักดนตรีก็จะมาเตรียมตัว กับทางโรงแรมตั้งแต่ประมาณ 17.00-17.30

16.เตรียมของชำร่วย ของและของรับไหว้ที่ใช้งาน

ของชำร่วยในงานจะมีทั้งแบบที่มีสำเร็จและใส่แพ็กเกจติดชื่อของคู่บ่าวสาวหรือสั่งทำขึ้นใหม่โดยเฉพาะ หากคิดไม่ออกส่วนมากจะเลือกสิ่งของที่เป็นคู่ ได้แก่ ตะเกียบ ช้อนส้อม เป็นต้น แต่ก็มีไอเดียน่าสนใจอยากจะแนะนำให้ทันยุคทันสมัย ได้แก่ พัดลมพกพา ยาดมสมุนไพร พัด แว่นตา ร่มขนาดเล็ก แต่ขอให้คำนึงถึงความคล่องตัวที่ผู้มาร่วมงานได้รับไปและต้องเข้าไปร่วมงาน หากเป็นของชิ้นใหญ่เกะกะเกินไป ก็อาจจะวางทิ้งไม่ได้นำกลับไปเป็นที่ระลึก

ส่วนของรับไหว้ที่ให้ผู้ใหญ่ ก็อาจจะเป็นเครื่องเบญจรงค์ ผ้าพันคอ เนกไท ผ้าขนหนู เครื่องแก้ว เครื่องเซรามิกต่างๆ  ซึ่งเป็นของพื้นฐานที่ผู้ใหญ่ได้รับแล้วสามารถนำไปใช่ต่อได้

17.ช่างทำผม และช่างแต่งหน้า

ช่างทำผมและข่างแต่งหน้า เป็นความชอบเฉพาะ หากใครมีช่างที่ใช้บริการกันอยู่แล้ว ลองสอบถามว่า สามารถทำผมและแต่งหน้าเจ้าสาวได้หรือไม่ แต่หากไม่มีช่างประจำปัจจุบันก็สามารถหาได้ง่ายตามกรุ๊ปช่างแต่งหน้างานแต่งงาน โดยปกติจะมีช่างทำผมมาเป็นคู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่ก่อนจะถึงวันจริงขอให้ลองแต่งหน้าและทำผมเสมือนจริงหากต้องการปรับแก้ตรงไหนก็จะได้ทดลองทำไว้ก่อน เรื่องของช่างแต่งหน้าหากใครเป็นคนที่แพ้ง่ายก็ขอให้ดูช่างแต่งหน้าที่ใช้เครื่องสำอางค์เหมาะสมกับผิวของเราด้วย ไม่เช่นนั้นจบงานแต่งงานอาจจะต้องไปรักษาผิวหน้ากันต่ออีกยาวเช่นกัน

ที่มา :www.handsomewedding.com

ที่มา :www.sheworeitlikethis.com

ที่มา : www.pronovias.com

ที่มา : www.indiquehair.com

18.คนประสานงานภายในงาน

เมื่อถึงวันงาน ทุกอย่างจะค่อนข้างวุ่นวายแม้ว่าจะใช้เวลาเตรียมการอย่างดีและมั่นใจว่าละเอียดแล้ว แต่ก็อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นได้ ดังนั้นขอให้วางตัวคนที่ไว้วางใจได้ 1 คน หรือ 1 ทีมเพื่อเป็นคนประสานงานกับโรงแรมหรือบุคคลอื่น และมีอำนาจตัดสินใจ เช่นเพิ่มอาหาร เพิ่มเครื่องดื่มเป็นต้น 

19 .สคริปหรือคิวในงานแต่งงาน

หากต้องการให้งานเป็นไปอย่างราบรื่นก็สามารถหา MC พิธีกรอาชีพที่ทำหน้าที่ในการรันคิวต่างๆไม่ให้สะดุด หรือหากใครมีเพื่อนรัก หรือพี่น้องที่ทำหน้านี้ได้ดีก็มอบหมายให้ช่วยเหลือเป็นพิธีกร นอกจากนี้แนะนำให้มีการเขียนสคริปแต่ละช่วงแต่ละตอนให้ชัดเจน เพื่อให้ไม่เกิดความสับสนระหว่างงาน

20.เตรียมผิวสวย ให้พร้อมสำหรับงานแต่งงาน

วันแต่งงานคือวันที่ผู้หญิงหลายคนได้ฝันไว้ อีกขั้นตอนที่อยากแนะนำ คือ การาเข้าคอร์สสปาเจ้าสาว คัดผิว อาบน้ำแร่ แช่น้ำนม นวดหน้าให้ช่ำเด้ง ทางโรงแรมฯ มีแพ็คเกจคอร์สเจ้าสาวให้บริการก่อนวันงานด้วยรับรองออกมา ผิวเนียน นุ่ม เตรียมอวดผิวสวยกันได้เลย

21.เตรียมที่พักให้กับแขกผู้มาร่วมงาน

เพื่อเป็นการดูแลผู้ที่มาร่วมงานที่เดินทางมาเพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว อย่าลืมเตรียมห้องพักให้กับผู้มาร่วมงานที่จะต้องนอนที่โรงแรม โดยส่วนมากทางลูกค้าจะจองกับทางโรงแรมเช่น 10-20 ห้อง ในราคาพิเศษ  โดยสามารถปรึกษากับฝ่ายขายของโรงแรมได้ หรือจะให้ทางผู้เข้าร่วมงานจองห้องเองก็ได้ โดยให้แจ้งชื่อว่ามาร่วมงานคู่บ่าวสาวคู่นี้ และได้ราคาพิเศษ ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับตกลงกัน

22.สรุปรายละเอียดสำคัญกับทางโรงแรมก่อนวันงาน

ข้อแนะนำสำคัญ คือ สรุปรายละเอียดทั้งหมดกับทางโรงแรมหรือสถานที่จัดงานอีกครั้งก่อนถึงวันงานประมาณ 14 วันเพื่อเป็นการรีเช็คว่า โรงแรมและเรามีอะไรที่เข้าใจกันคลาดเคลื่อน หรือต้องการปรับอะไรให้เป็นตามที่วางไว้หรือไม่ หากมีฤกษ์ต่างๆก็ขอให้ลงรายละเอียดเรื่องเวลากันอีกครั้งเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด

สำหรับ 22 สิ่งที่ควรรู้ก่อนจัดงานแต่งงานนี้เป็นรูปแบบการจัดงานโดยตนเองแบบไม่ได้ใช้ Organizer หรือ Wedding Planner จากประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง เพื่อเป็นแนวทางให้คู่บ่าวได้นำไปเตรียมงานแต่งงานกัน